สาเหตุที่ทำให้กระจกรถยนต์แตกขณะจอด ความคิดเห็นของนักวิทยาศาสตร์

เช็คบทความก่อนและอ้างอิงแหล่งที่มา เมื่อไม่นานมานี้ มีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งโพสต์ภาพกระจกรถยนต์แตกขณะจอดอยู่ในบ้าน ทำให้มีการพูดคุยและสอบถามกันมากมายเกี่ยวกับสาเหตุที่เป็นไปได้ รองศาสตราจารย์ ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ นักสื่อสารวิทยาศาสตร์และอาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ออกมาให้ความเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้และชี้แจงถึงสาเหตุที่อาจทำให้กระจกรถยนต์แตกได้

ดร.เจษฎา ระบุว่า “กระจกรถแตกเองได้เกิดจากหลายสาเหตุ” ในกรณีที่ผู้ใช้เฟซบุ๊กโพสต์ภาพกระจกข้างของรถแตกทั้งบาน พร้อมแคปชั่นว่า “ขนาดจอดไว้ในบ้าน กระจกยังแตก ช่วงนี้แนะนำให้แง้มกระจกกันไว้นิดนึงนะคะ” ผู้สื่อข่าวได้สอบถามว่าการที่กระจกแตกเกิดจากความร้อนของอากาศหรือไม่

ความร้อนของอากาศกับการแตกของกระจกรถยนต์

คำตอบคือ ความร้อนของอากาศเป็นสาเหตุหนึ่งที่สามารถทำให้กระจกรถแตกได้ แต่ยังมีสาเหตุอื่น ๆ ที่ต้องพิจารณา ดร.เจษฎา อธิบายว่า กระจกด้านข้างและกระจกด้านหลังของรถยนต์มักจะเป็นกระจกนิรภัยแบบ Tempered Glass ขณะที่กระจกด้านหน้าจะเป็น Laminated Glass การรับแรงกระแทกจึงแตกต่างกัน กระจกนิรภัยแบบ Tempered Glass มีโอกาสเกิดการแตกเนื่องจากภาวะเครียดของกระจก (Stress Crack) ได้ ซึ่งการจอดรถยนต์ในที่ร้อนมาก ๆ แล้วมีการเปลี่ยนสภาพอากาศอุณหภูมิกะทันหัน (ร้อน-เย็น) ก็สามารถทำให้กระจกแตกได้

ตัวอย่างเช่น เมื่อรถตากแดดร้อนจัด แล้วคนขับกลับขึ้นมาเปิดแอร์เร่งความเย็นของเครื่องปรับอากาศเต็มที่ หรือการล้างรถด้วยน้ำเย็น หรือเจอฝนตกกระทันหัน กระจกที่อาจมีรอยร้าวเล็ก ๆ ที่มองไม่เห็นอยู่แล้ว หรือมีโพรงอากาศระหว่างชั้นของกระจก จะเกิดการหดและขยายตัวของชั้นกระจกที่ไม่เป็นไปในสัดส่วนที่ถูกต้องจนกระจกแตก

สิ่งของตกใส่กระจก

สาเหตุหลัก ๆ ของการที่กระจกรถแตกคือมีสิ่งของตกใส่ ดร.เจษฎา แนะนำให้พิจารณารอบ ๆ คันรถ อาจพบผลไม้หนัก ๆ กิ่งไม้ กระถางต้นไม้ตกลงมาใส่รถ หรือสัตว์เลี้ยงเช่น แมวกระโดดลงมาใส่ ยิ่งถ้ากระจกเคยมีรอยร้าวมาก่อน เช่น โดนหินกระเด็นใส่โดยไม่รู้ตัว ก็ยิ่งมีโอกาสแตกได้ง่ายขึ้น

การตรวจสอบการแตกร้าวของกระจก

การแตกร้าวของกระจกสามารถเกิดได้ทั้งจากการถูกของแข็งกระทบหรือจาก Stress Crack วิธีสังเกตคือ ถ้ากระจกรถยนต์ที่แตกไม่มีร่องรอยของจุดกระทบหรือจุดประทะ แสดงว่าเป็นการแตกร้าวเนื่องจากความเค้น (Stress Crack) รถยนต์ที่มีอายุหลายปีหรือผ่านการชนมาแล้ว อาจเกิดความผิดปกติจากโครงสร้างรถที่บิดเบี้ยว ทำให้กระจกรถบิดตัวตามไปด้วยและอาจแตกได้ง่ายขึ้น

ข้อผิดพลาดในการผลิต

ในกรณีที่เป็นรถยนต์ใหม่ ๆ ขับอยู่ดี ๆ แล้วกระจกแตกทุกบาน อาจเกิดจากข้อผิดพลาดในการผลิตและโครงสร้างของรถ ควรนำรถเข้าศูนย์บริการให้ทางบริษัทตรวจสอบหาสาเหตุต่อไป

คำแนะนำในการหลีกเลี่ยงการแตกของกระจกรถยนต์

  1. หลีกเลี่ยงการจอดรถตากแดดไว้นาน ๆ การจอดรถตากแดดนาน ๆ จะทำให้รถยนต์เสื่อมสภาพเร็ว ควรหาที่จอดรถในร่มหรือใช้ผ้าคลุมรถ
  2. ตรวจสอบร่องรอยบนกระจกรอบตัวรถ ตรวจสอบตัวถังรถว่ามีรอยบุบรอยเบี้ยวตรงไหน ที่อาจสร้างแรงดันให้กับกระจกรถ
  3. ระบายอากาศร้อนก่อนใช้งานรถ ถ้าต้องจอดตากแดดไว้ เมื่อจะใช้รถให้เปิดกระจกลงเพื่อระบายอากาศร้อนออกก่อน แล้วค่อย ๆ เร่งอุณหภูมิแอร์ให้เย็นขึ้น
  4. ติดตั้งฟิล์มกรองแสง ฟิล์มกรองแสงที่มีคุณสมบัติในการระบายความร้อนที่ดีจะช่วยลดความร้อนภายในรถและช่วยเวลาเกิดอุบัติเหตุ
  5. หลีกเลี่ยงการจอดรถในพื้นที่เสี่ยงกับการระเบิด อาทิเช่น เหมือง การทำลายตึก การซ้อมรบ หรือฐานปล่อยจรวด แม้แต่การจอดรถใกล้กับรันเวย์หรือสนามฝึกซ้อมเครื่องบินขับไล่ ที่มีการระเบิดของคลื่นเสียง (โซนิคบูม) เพราะสามารถทำให้เกิด Stress Cracks ได้
  6. อย่าวางสิ่งของที่อาจเกิดการระเบิดไว้ในรถ เช่น ไฟแช็ก กระป๋องสเปรย์ พาวเวอร์แบงค์ เมื่อจอดแตกแดด

จากคำแนะนำและข้อมูลข้างต้น การแตกของกระจกรถยนต์สามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุ การตรวจสอบและดูแลรักษารถยนต์อย่างสม่ำเสมอจะช่วยลดความเสี่ยงที่กระจกจะแตกได้ ร้านกระจกรถยนต์ชลบุรี อู่ซ่อม เปลี่ยน ขจรเจริญกลการ

อ้างอิง https://www.khaosod.co.th/special-stories/news_8179840

Posted in บทความ.