รถยนต์คู่ใจที่เราขับเคลื่อนผ่านทุกการเดินทางไม่ต่างจากเพื่อนรักที่เราต้องดูแลเอาใจใส่ ทั้งความสะอาด ความปลอดภัย และการปกป้องภายในรถจากแสงแดดที่ร้อนแรง ฟิล์มกรองแสงจึงกลายเป็นเกราะป้องกันชั้นเยี่ยมที่ช่วยป้องกันรังสี UV ที่อันตรายจากแสงแดด ช่วยลดความร้อนในห้องโดยสาร และช่วยป้องกันอุปกรณ์ภายในรถให้มีอายุการใช้งานยาวนานขึ้น แต่ไม่ใช่ว่าฟิล์มกรองแสงจะอยู่กับเราไปตลอดชีวิต ฟิล์มกรองแสงก็มีอายุการใช้งานเช่นกัน หากปล่อยให้เสื่อมสภาพโดยไม่เปลี่ยน อาจเกิดผลเสียต่อตัวรถและสุขภาพของเราโดยที่เราไม่คาดคิด
บทความนี้เราจะพามารู้จักสัญญาณเตือนว่าฟิล์มกรองแสงถึงเวลาเปลี่ยนใหม่ พร้อมตอบข้อสงสัยเกี่ยวกับอายุการใช้งานของฟิล์มกรองแสง เพื่อให้คุณได้ขับขี่อย่างปลอดภัยและมั่นใจที่สุด
สัญญาณเตือนที่บอกว่าถึงเวลาเปลี่ยนฟิล์มกรองแสงแล้ว
เพียงสังเกตไม่กี่ข้อ ก็ตรวจเช็คได้ว่าฟิล์มของคุณเสื่อมสภาพแล้วหรือยัง
- ฟิล์มมีฟองอากาศ คุณเคยเห็นฟองอากาศเล็กๆ ที่กระจายอยู่ทั่วกระจกหรือไม่? นั่นแหละเป็นสัญญาณว่ากาวของฟิล์มเริ่มเสื่อมสภาพ ทำให้ฟิล์มไม่ยึดติดกับกระจกดีพอ
- ฟิล์มเริ่มลอก ถ้ามุมฟิล์มเริ่มหลุด หรือลอกออกมาเป็นแผ่นๆ ก็เป็นอีกหนึ่งสัญญาณที่บอกว่าฟิล์มเสื่อมสภาพ
- เปลี่ยนสี มองไม่ชัด หากฟิล์มเปลี่ยนเป็นสีม่วง ซีดจาง หรือมีคราบเหลือง เป็นสัญญาณว่าทัศนวิสัยขณะขับขี่ลดลง
- แสบร้อน ทั้งที่ติดฟิล์มแล้ว หากคุณรู้สึกแสบผิวหรือแสบตาในขณะขับรถ อาจเป็นสัญญาณว่าฟิล์มของคุณป้องกันรังสี UV ได้ไม่ดีเหมือนเดิม
- อุปกรณ์ภายในรถเสื่อมเร็ว หากเบาะหนังแห้งกรอบหรือคอนโซลซีดจาง นั่นอาจหมายถึงว่าฟิล์มไม่สามารถป้องกันรังสี UV ได้ดีพอ
อายุการใช้งานของฟิล์มกรองแสง
โดยปกติแล้ว ฟิล์มกรองแสงมีอายุการใช้งานประมาณ 5-7 ปี ขึ้นอยู่กับคุณภาพฟิล์ม การติดตั้ง และการดูแลรักษา แต่ถ้าตรวจพบว่าฟิล์มเริ่มเสื่อมสภาพ แม้ยังไม่ครบอายุการใช้งาน ก็ควรรีบเปลี่ยนใหม่ทันที เพื่อความปลอดภัยในการขับขี่และผลลัพธ์ดีที่สุด
ผลเสียของการใช้ฟิล์มกรองแสงที่เสื่อมสภาพ
อันตรายต่อผิวจากรังสี UV เสี่ยงต่อการเกิดฝ้า กระ จุดด่างดำ ริ้วรอยก่อนวัย และอาจนำไปสู่โรคมะเร็งผิวหนัง
ทัศนวิสัยแย่ลง เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ
สิ้นเปลืองค่าใช้จ่าย การปล่อยให้กระจกรถยนต์เสียหายอาจทำให้ต้องเสียค่าซ่อมแซมเพิ่มเติม
ขจรเจริญกลการหวังว่าบทความนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจและตัดสินใจเลือกฟิล์มกรองแสงได้อย่างมั่นใจนะครับ อย่าลืมตรวจเช็คสภาพฟิล์มกรองแสงรถยนต์ของคุณอย่างสม่ำเสมอ เพื่อความปลอดภัยในการขับขี่ของคุณและคนที่คุณรัก