ทุกคนที่เคยขับรถย่อมรู้ดีว่า การเดินทางบนถนนบางครั้งก็เต็มไปด้วยความท้าทาย ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางไกลที่ต้องใช้สมาธิ การเผชิญหน้ากับการจราจรที่ติดขัดในเมือง หรือสภาพอากาศที่อาจไม่เป็นใจ หลายคนอาจไม่ทันสังเกตว่า “เพลง” ที่เราเปิดฟังขณะขับรถนั้นสามารถส่งผลต่อสมาธิและอารมณ์ของเราได้อย่างมาก
เพลงไม่ได้เป็นแค่เพื่อนร่วมทางที่ช่วยสร้างบรรยากาศให้การขับขี่สนุกขึ้น แต่ยังมีผลต่อการขับขี่อย่างปลอดภัยด้วย ลองมาดูกันว่า จังหวะและความเร็วของเพลงมีผลอย่างไร
จังหวะดนตรีกับระดับสมาธิ
ผลการศึกษาต่างๆ เปิดเผยว่า จังหวะดนตรีมีความเกี่ยวข้องกับคลื่นสมองของมนุษย์อย่างน่าอัศจรรย์ เพลงที่มีจังหวะช้าและสม่ำเสมอ ประมาณ 60-80 บีทต่อนาที (BPM) มักจะช่วยให้สมองผ่อนคลาย ลดความเครียด และเพิ่มสมาธิ เพลงแนว Classic, Jazz, Ambient หรือ Pop Ballad จึงมักจะเป็นตัวเลือกที่ดีเมื่อต้องการสมาธิ ไม่ว่าจะเป็นการขับรถทางไกล การขับรถกลางคืน หรือในสภาพอากาศที่เลวร้าย
ในทางกลับกัน เพลงที่มีจังหวะเร็วและหนักหน่วง เช่น Rock, Heavy Metal หรือ EDM มักทำให้รู้สึกตื่นเต้นและตื่นตัวมากขึ้น ซึ่งอาจช่วยเพิ่มพลังให้เราในช่วงเวลาสั้นๆ แต่หากฟังมากเกินไป เสียงเพลงที่ดังและจังหวะที่เร็วเกินไปอาจทำให้เราขาดสมาธิและเหนื่อยล้าได้
ความเร็วของเพลงกับพฤติกรรมการขับขี่
ไม่ใช่แค่จังหวะดนตรีที่มีผลต่อสมาธิของเรา แต่ความเร็วของเพลงยังส่งผลถึงพฤติกรรมการขับขี่ด้วย งานวิจัยจากมหาวิทยาลัย London Metropolitan พบว่าผู้ขับขี่ที่ฟังเพลงเร็วมีแนวโน้มที่จะขับรถเร็ว เปลี่ยนเลนบ่อย และแสดงพฤติกรรมก้าวร้าว ในทางกลับกัน ผู้ที่ฟังเพลงช้ามักจะขับรถด้วยความเร็วที่เหมาะสม ควบคุมอารมณ์ได้ดีกว่า และมีสติในการขับขี่มากกว่า
เคล็ดลับในการเลือกเพลงสำหรับการขับขี่
พิจารณาเส้นทางและสภาพการจราจร หากต้องขับรถทางไกลบนถนนโล่ง เพลงช้าๆ สบายๆ อาจเหมาะสม แต่สำหรับการขับในเมืองที่การจราจรคับคั่ง อาจเลือกเพลงที่จังหวะเร็วขึ้นเพื่อรักษาความตื่นตัว
ปรับระดับเสียงให้พอเหมาะ ไม่ว่าจะฟังเพลงแนวใด ควรปรับเสียงให้พอเหมาะ ไม่ดังจนเกินไปจนอาจบดบังเสียงแตร หรือเสียงจากสภาพแวดล้อม
เลือกเพลงที่คุ้นเคย เพลงที่คุ้นเคย เนื้อหาสร้างกำลังใจ หรือสร้างความสุขจะช่วยให้ผ่อนคลายและลดความเครียด
หลีกเลี่ยงเพลงที่ทำให้เสียสมาธิ เพลงที่เนื้อหาเศร้า รุนแรง หรือทำให้อารมณ์โกรธ อาจทำให้เสียสมาธิเวลาขับขี่
การเลือกเพลงที่เหมาะสมไม่เพียงสร้างบรรยากาศการเดินทางที่ดี แต่ยังส่งผลต่อความปลอดภัยในการขับขี่ด้วย ดังนั้น อย่าลืมใส่ใจเลือกจังหวะและความเร็วของเพลงที่จะฟัง เพื่อให้การขับขี่ของคุณราบรื่น ปลอดภัย และถึงจุดหมายอย่างมีความสุข